Lady in Red
20 แฟชั่นสีแดง


เพื่อให้เข้ากับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้เรามาแต่งตัวรับอั่งเปากันหน่อยดีกว่าค่ะ และแน่นอนว่าสีที่เป็นสิริมงคลสำหรับเทศกาลนี้ก็คือสีแดง แฟชั่นในวันนี้จึงสีแดงแรงฤทธิ์เข้ากับเทศกาลทั้งยังช่วยขับสีผิวให้ดูโดดเด่นได้อีกด้วย ใครผิวขาวอยู่แล้วก็ยิ่งดูมีออร่าขึ้นไปอีก ส่วนใครที่ผิวสีแทนหากได้ใส่สีแดงคุณจะดูเก๋มากๆเลยค่ะ แค่เลือกแบบที่เข้ากับตัวคุณแค่นี้ความมั่นใจก็บังเกิดแล้วละค่ะ






เห็นมั้ยละค่ะว่าสีแดงที่ร้อนแรงก็สามารถนำมาแต่งตัวให้ดูลุคมั่นใจขึ้นเป็นกองเลยล่ะค้่าาา ขอบคุณรูปและความรู้ดีๆจาก
http://issue247.com
    
        สูตรดีท็อกลำไส้ที่สาวๆห้ามพลาด!!



ประโยชน์การดีท็อก
1. ล้างลำไส้ช่วยให้มีการขับของเสียได้ดี โดยไม่ต้องพึ่งยาระบาย โดยเฉพาะท่านที่มักท้องผูก

2.  ประโยชน์ของการล้างลำไส้ช่วยล้างลำไส้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดการระคายเคืองต่อ
3. ช่วยทำให้ผิวเรามีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
4. ช่วยให้พุงยุบ ไม่มีของเสียตกข้างอยู่ในลำไส้ของเรา
5.  ระบบขับถ่ายและการไหลเวียนภายในร่างกายสมดุลยิ่งขึ้น
6.  ช่วยล้างไขมันในลำไส้เล็ก และยังมีไขมันฝ่ายดีและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

วิธีลดหน้าท้อง สูตรดีท็อกซ์ลำไส้สุขภาพดี ผิวสวย พุงยุบ

นมสด+โยเกิร์ต+น้ำผึ้ง+มะนาว

» กินช่วงเช้า  เวลาประมาณ 5.00 – 12.00 น. กินตอนท้องว่าง ตื่นมาแล้วกินเลย จะช่วยในเรื่องของการลดความอ้วน ลดพุง
» กินช่วงบ่าย  เวลาประมาณ 13.00-15.00 น. จะไปช่วยย่อยขยะในลำไส้เล็กเพื่อเปลี่ยนขยะให้เป็น บี 12 ส่งไปเลี้ยงสมองได้ดีมาก
» กินช่วงเย็น เวลาไหนก็ได้ก่อนนอน ตอนที่ท้องเราว่าง จะช่วยในเรื่องของการลดความอ้วน ลดพุง ย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการกินช่วงเช้า
นมสดรสจืดต้องใช้ชนิดที่เป็นนมโคแท้100%เท่านั้นขนาด180 มล.1กล่อง+โยเกิร์ต(ใช้รสธรรมชาติเท่านั้น) ครึ่งถ้วย +น้ำผึ้ง1ช้อนชา +มะนาวครึ่งลูก
บีบน้ำมะนาวใส่แก้ว/เติมน้ำผึ้ง/ใส่โยเกิร์ต/ใส่นม คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวยกขึ้นดูน้ำผึ้งไม่ติดช้อนแล้ว ทานทันที ไม่วางไว้ ไม่แช่เย็น
โยเกิร์ตควรแช่เย็น แต่สำหรับนมไม่ควรแช่เย็น หากนำนมเก็บไว้ในตู้เย็นควรให้นำไปอุ่นก่อนโดยแช่ในน้ำที่ต้มร้อนแล้วเพื่อคลายเย็นไม่ต้องต้มร้อน


วิธีลดน้ำหนักด้วยเม็ดแมงลัก ดีท็อกล้างพิษ ล้างลำไส้
เม็ดแมงลัก (ชื่อภาษอังกฤษ คือ Hoary basil ต่อมาเปลี่ยนเรียกเป็น Lemon basil)  สำหรับวันนี้fat108.com มีวิธีดีท็อกล้างพิษ ล้างลำไส้ ล้างทำความสะอาดของเสียภายในร่างกาย  ง่ายๆไม่ยากแค่นำเม็ดแมงลัก ตักใส่แก้วประมาณ 2ช้อนชา ผสมน้ำร้อน 1 แก้ว ตั้งทิ้งไว้ 30นาที เมื่อเม็ดแมงลักแตกตัวเต็มแก้วก็นำมาดื่มก่อนนอน สำหรับใครที่ไม่ชอบรสชาติแบบเพียวๆของเม็ดแมงลักเราอาจจะใส่น้ำผึ้ง น้ำสมุนไพรที่เราชอบ น้ำหวานเฮลบลูบอย (แนะนำเป็นสีแดงนะค่ะกลิ่นไม่ฉุนเท่าสีเขียว แต่ถ้าใครชอบเฮลบลูบอยสีเขียวก็ใส่ได้ตามชอบเลยจ้า) การปรุงรสชาติเข้าไปจะทำให้เราทานง่ายขึ้น สำหรับเม็ดแมงลักนั้นจะมีใยอาหารสูงและมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ที่ดีต่อร่างกาย จึงช่วยในการลากอุจจาระที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียว เราสามารถทานเม็ดแมงลักเป็นปกติได้ทุกวัน หรือ 3 – 4 วันต่อสัปดาห์ หรือจะทานช่วงเที่ยงร้อนๆ เติมน้ำแข็งลงไปเพื่อดับกระหายคล้ายร้อนไปในตัว นอกจากนี้  เม็ดแมงลักยังเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ลดหน้าท้อง ลดพุงที่ดีอีกด้วย เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดพลังงาน แถมยังช่วยให้เราระบายถ่ายคล่อง  อีกทั้งยังช่วยในการลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย  นับว่าเป็นเครื่องดื่มสารพัดประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายเราอย่างมากเลยจ้า
* หมายเหตุ : ข้อควรระวังในการทานเม็ดแมงลัก คือ ต้องรอให้เม็ดแมงลักแตกตัว พองตัวเต็มที่เสียก่อน เพราะแทนที่จะช่วยระบาย ก็อาจจะกลายเป็นทำให้ท้องผูกแทนได้ทันที



ดีท็อกขับถ่ายของเสีย ด้วยวิธีธรรมชาติ
สูตรที่ 1 – ดื่มนมสด 2 กล่อง (ปริมาณรวมประมาณ 500มิลลิลิตร) + กล้วยน้ำว้า 2 ผล
ควรทานก่อน 6 โมงเช้าเพื่อให้ร่างกายขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายก่อนที่เราจะทานอาหารเช้า แนะนำให้ช่วงแรกๆควรทานติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน เมื่อเราขับถ่ายอุจจาระเป็นเวลา คือก่อน 7 โมงเช้าแล้ว เราก็สามารถลดปริมาณการทานเหลือเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งได้จ้า


สูตรที่ 2 – ผักบุ้ง 2 กำมือ ผัดหรือต้มสาเหตุที่ให้ทานผักบุ้ง เพราะผักบุ้ง  ในผักบุ้ง 100 กรัมจะให้พลังงาน 22 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยเส้นใย วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆอีกด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น  ช่วยป้องกันโรคท้องผูก  ช่วยทำความสะอาดของเสียที่ตกค้างในลำไส้  ผักบุ้งจีนมีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะเหลือง ช่วยแก้อาการปัสสาวะเป็นเลือด ถ่ายออกมาเป็นเลือด ด้วยการใช้ลำต้นคั้นนำน้ำมาผสมกับน้ำผึ้งดื่ม ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ฯลฯ เห็นไหมละค่ะว่าแค่ผักบุ้งตัวเดียวก็ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมายจริงๆ  สำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักควรจะทานเป็นผักบุ้งต้ม ดีกว่านะค่ะ จะได้ไม่เพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกายมาก


ที่มา: .fat108
การทำอะไรซ้ำๆเดิมๆอาจจะทำให้เรารู้สึกเบื่อหน่ายกันบ้าง เช่นเดียวกันกับการเขียนอายไลน์เนอร์ ซึ่งมีการเขียนอยู่เพียงไม่กี่แบบเท่านั้น วันนี้ Girlsallaround.com ก็เลยจะพามาดูไอเดียการเขียนอายไลน์เนอร์ให้ดวงตาของสาวๆโดดเด่นยิ่งขึ้น แถมไม่น่าเบื่อซ้ำซากด้วย!

1. เขียนแต่ขอบตาล่าง
ถ้าอยากให้ดวงตาคมชัดโดยไม่ดูเยอะไปหมด ให้ใช้ดินสออายไลน์เนอร์เขียนขอบตาล่างอย่างเดียวก็พอ ดวงตาก็จะดูชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย
-----------------------------------------------------------
2. เขียนขอบตาบนด้วยกลิตเตอร์
แทนที่จะเขียนแค่สีดำเพียงอย่างเดียว ลองใช้กลิตเตอร์เพิ่มความฟรุ๊งฟริ้งให้ดวงตาของคุณด้วยสิ รับรอบว่าดูเป็นประกาย วิบวับสุดๆ แต่ถ้ากลัวจะเว่อร์วังเกินไปในชีวิตประจำวัน ก็เขียนเป็นเส้นบางๆเหนืออายไลน์เนอร์สีดำก็ได้นะ
-----------------------------------------------------------
3. ลองเขียนด้วยสีเขียวน้ำทะเล
การเพิ่มสีสันให้ดวงตาก็เป็นทางเลือกที่ดีถ้าสาวๆรู้สึกเบื่อกับสีดำ และสีเขียวน้ำทะเลนั้นก็เหมาะสุดๆ เพราะดูใสๆดูเบากว่าสีน้ำเงินหรือสีดำเข้มเป็นไหนๆ แต่มองดูแล้วก็ยังดูมีอะไรน่าค้นหา
-----------------------------------------------------------
4. หรือจะเขียนด้วยสีม่วงแล้วเกลี่ยให้ฟุ้ง
สาวๆอาจจะใช้อายไลน์เนอร์สีม่วงแท่งเดียวเขียนขอบตาบนแล้วเกลี่ยให้ฟุ้งเพื่อเป็นอายแชโดว์ จากนั้นก็เขียนขอบตาบนทับอีกครั้งเพื่อให้ดูคมชัด อายไลน์เนอร์แท่งเดียวได้ทั้งอายแชโดว์และอายไลน์เนอร์เลยนะ
-----------------------------------------------------------
5. อายไลน์เนอร์สีขาว
อายไลน์เนอร์สีขาวช่วยให้ดวงตาดูสดใสและมีประกายมากขึ้น แต่อย่าลืมปัดมาสคาร่าด้วยนะ เพื่อให้ดวงตากลมโตสุดๆ
-----------------------------------------------------------
6. เขียนเส้นใหญ่ๆ ให้เป็นสโมกี้อายฟุ้งๆ
ใช้ดินสออายไลน์เนอร์เขียนทั้งขอบตาบนและขอบตาล่าง โดยเน้นลากให้ออกมาเพื่อให้หางตาดูยกเชิ่ดขึ้น จากนั้นก็ใช้นิ้วก้อยเกลี่ยให้ฟุ้ง เท่านี้ก็ได้สโมกี้อายที่ง่ายที่สุดในโลกแล้ว
-----------------------------------------------------------
7. แคทอายไม่เคยไปไหน
แต่สุดท้ายถ้าลองทุกอย่างจนครบแล้ว จะกลับมาเขียนแคทอายหางยาวๆก็ยังดูเก๋ได้อยู่ โดยใช้เทปเป็นตัวช่วยให้คมยิ่งขึ้น เท่านี้สามารถเอาอยู่ได้ทุกลุคแล้วล่ะ!!



ไอเดียเก๋ๆ ใหม่ๆ และน่าลองเพียบเลยนะคะ!! ต่อไปการเขียนอายไลน์เนอร์ก็จะเป็นเรื่องสนุก และไม่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไปแล้ว!!
-----------------------------------------------------------
แปลและเรียบเรียงโดย raraROBYN
ที่มา dailymakeover

ปัจจุบันรองเท้า Nike กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ส่วนยมากจะพบในวัยรุ่นผู้ชาย แต่ Nike นั้นสามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิงเลยนะค่ะ วันนี้ Beautytip จะเอาหลักฐานมายืนยันกันว่า Nike ผู้หญิงใส่ก็สวยงามไปเป็น Sneaker Fahion กันอีกค้าาา

























                              
   
    รวมสูตรขัดหน้าวิธีธรรมชาติ ที่ทำง่ายๆได้ที่บ้าน

    การขัดหน้า หรือ การสครับหน้า (Face Scrub) เป็นหนึ่งในวิธีการดูแลรักษาผิวให้ขาวใส ที่คุณสาวๆให้ความสนใจ เนื่องจากการขัดผิวหน้าเป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำและตายแล้วออกไป เมื่อเซลล์ผิวหนังใหม่ขึ้นมาแทนที่ จึงทำให้ผิวใบหน้าดูเรียบเนียน เปล่งปลั่งมีออร่ามากขึ้นกว่าเดิม

 วิธีขัดผิวหน้าที่สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ได้ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงิน เสียเวลาไปสถาบันเสริมความงามอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันส่วนผสมที่นำมาใช้ในการขัดหน้าก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น เกลือ ดินสอพอง เป็นต้น  รวมไปถึงผลิตภัณฑ์สำหรับการขัดหน้าโดยเฉพาะที่มีวางขายอยู่หลายยี่ห้อ

       สำหรับในวันนี้จะขอพาไปแนะนำให้รู้จัก สูตรการขัดหน้า ที่สามารถหาได้จากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งได้ทำการรวบรวมเอาไว้ให้คุณสาวๆ ได้ทดลองนำสูตรที่สนใจไปใช้ในการขัดผิวหน้าด้วยตัวเอง




สูตรขัดหน้าธรรมชาติ

     1. สูตรน้ำผึ้ง+น้ำมันมะกอก นำน้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลทรายแดง ½ ถ้วย เทลงในถ้วย แล้วค้นให้เข้ากัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้ทาลงบนใบหน้าให้ทั่ว แล้วทำการขัด ประมาณ 60 วินาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

   2. สูตรน้ำตาลทรายแดง ปั่นน้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย ผิวมะนาวขูด 2 ช้อนชา ให้เข้ากัน นำส่วนผสมที่ได้มาทำการขัดใบหน้า โดยการนวดเบาๆให้ทั่ว แล้วทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด


   3. สูตรน้ำมะนาว นำน้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับน้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วล้างออก ขอที่ควรระวังคือ ไม่ควรใช้น้ำมะนาวล้วนๆในการทาผิวหน้า เพราะจะเป็นอันตรายต่อผิวหน้า เช่น ทำให้ใบหน้ากร้านขึ้น เป็นต้น


  4. สูตรดินสอพอง+น้ำมะนาว นำดินสอพองมาผสมเข้ากับน้ำมะนาว นำส่วนผสมที่ได้ทาลงบนใบหน้าบางๆก่อนนอน แล้วล้างออกในตอนเช้าด้วยน้ำเย็น แต่ถ้าหากรู้สึกว่าผิวหน้าตึงเกินไปเมื่อใช้สูตรดังกล่าว แนะนำให้ลองลดปริมาณดินสอพองลง
   5. สูตรไข่ขาว+มะนาว นำไข่ขาว 1 ช้อนชา กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา มาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ทาบางๆทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นที แล้วจึงล้างออกด้วยสบู่
   

  6. สูตรโยเกิร์ต+เกลือป่น นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย ผสมเข้ากับเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทาให้ทั่วใบหน้า จากนั้นใช้นิ้วมือขัดให้ทั่วประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น


      7. นมผง+น้ำมะนาว นำนมผง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และน้ำอุ่น 1 ช้อนชา ผสมเข้าด้วยกันจนนิ่ม นำส่วนผสมที่ได้มาถูเบาๆทั่วหน้า ปล่อยทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเย็น


   8. สูตรมะเขือเทศ+โยเกิร์ต นำมะเขือเทศ 2 ลูก โยเกิร์ต 1 ถ้วย และเกลือแกง 2 ช้อนชา ปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปขัดเบาๆให้ทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด



   9. สูตรผงกากกาแฟ+นมจืด นำผงกากกาแฟใส่ลงในถ้วย แล้วเทนมจืดผสมลงไปเล็กน้อย แล้วทำการกวนจนกระทั่งส่วนผสมมีลักษณะเหนียวข้น จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทำการทาให้ทั่วใบหน้า ขัดเบาๆ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

   10 สูตรรำข้าว นำรำข้าว 3-4 ช้อนโต๊ะ นมเปรี้ยว 2-3 ช้อนโต๊ะ และเกลือทะเลที่ใช้ในการขัดผิว 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมให้เข้ากันในถ้วยใบเล็กๆ จนเหนียวกลายเป็นเนื้อครีมเดียวกัน จากนั้นให้นำส่วนผสมที่ได้มาทาให้ทั่วใบหน้า ขัดเบาๆ แล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

   11. สูตรสตอเบอรี่ โยเกิร์ต นำสตอเบอรี่จำนวน 4 ผล ไปปั่น แล้วนำสตอเบอรี่ที่ปั่นผสมเข้ากับโยเกิร์ตรสธรรมชาติแช่เย็น ½ ถ้วย ให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาขัดและนวดเบาๆให้ทั่วใบหน้า แล้งล้างออกด้วยน้ำอุ่น


   12. สูตรข้าวโอ๊ต+เม็ดถั่วเขียว นำข้าวโอ๊ตอบแห้ง 1 ช้อนชา และเม็ดถั่วเขียว ½ ช้อนชา ปั่นรวมกันให้ละเอียด จากนั้นให้เผสมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยแล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำส่วนผสมที่ได้ขัดผิวหน้าให้ทั่วอย่าเบามือ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด


   13. สูตรผงวิเศษ+น้ำมะนาว นำผงวิเศษตราร่มชูชีพ 2 ซอง น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทำการขัดหน้าเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

   14. สูตรมะขามเปียก นำมะขามเปียก 1 ก้อน ดินสอพอง 2 ก้อน นมรสจืด 4-5 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการขัดที่ผิวหน้าเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด


     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการขัดหน้าจะช่วยทำให้ผิวของคุณสาวๆ ขาวใสกระจ่างขึ้น แต่ก็ไม่ควรทำการขัดหน้าบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวบางขึ้น ทำให้ไวต่อแสง และอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ที่ตามมา เช่น ผิวที่แห้งกร้าน หรือสิว เป็นต้น 


     ความถี่ในการขัดผิวหน้า คือประมาณ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว และทุกครั้งที่มีการขัดผิวหน้า ควรทำการบำรุงผิวหน้าด้วยมอยเจอไรเซอร์ ถ้าต้องการออกไปนอกบ้านหลังจากที่พึ่งทำการขัดผิวหน้า ก็ควรที่จะทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15+++ ขึ้นไป เพื่อช่วยในการปกป้องที่ผิวหน้าที่บอบบางขึ้นจากการขัดหน้า และหลีกเลี่ยวผิวหน้าจากแสงแดดอีกทางหนึ่งด้วย

   ถ้าหากคุณสาวๆ ทำตามวิธีการขัดหน้า ที่ได้แนะนำไปในข้างต้นอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอแล้ว ในระยะเวลาที่ไม่นานนักก็จะสามารถเห็นผลว่าเจ้ากระตัวดีจะเริ่มจางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินและเสียเวลาในการไปรักษาตามสถาบันเสริมความงาม อีกทั้งยังเป็นวิธีการรักษาด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย มีราคาที่ไม่แพง อีกทั้งยังมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้สารเคมีเพื่อช่วยในการรักษาอีกด้วย
       ถ้าหากใครขี้เกียจที่จะหาวัตถุดับจากธรรมชาติดังกล่าวข้างต้นมารใช้แล้ว ก็จะขอแนะนำผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้า สครับหน้า ดูแลผิวหน้าให้ขาวใสที่จะแนะนำให้ใช้ เรียงลำดับการทำความสะอาดผิวหน้า ตั้งแต่ การขัดหน้า ล้างหน้า ใช้เซรั่มกระชับรูขุมขน และก็ครีมหน้าใสเพื่อผิวเรียบเนียนเป็นการตบท้ายการบำรุงผิวหน้าขาวใส




ที่มา :http://www.beauty24store.com


    สาวๆคงปฎิเสธไม่ได้อย่างแน่นอนว่า สีผม สุดคลาสสิครองลงมาจากสีดำ ก็เห็นจะหนีไม่พ้นเจ้าสีน้ำตาลนี่แหละจ่ะ เพราะนอกจากสีน้ำตาลจะเหมาะกับสาวๆทุกสีผิวแล้ว ยังช่วยทำให้หน้าของคุณผู้หญิงทั้งหลายดูสว่างกระจ่างใสมากกว่าที่เคย แถมยังเป็นสีที่สุดจะ play safe เพราะย้อมแล้ว สีออกมาไม่แรงจนเกินงามและได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติแบบสุดๆไปเลย งานนี้เห็นที จะไม่ย้อมไม่ได้แล้วล่ะจ่ะ! แต่เดี๋ยวก่อน...ใช่ว่าจะสีน้ำตาลจะมีอยู่แค่โทนเดียว สีเดียว หรือแบบเดียว ซะที่ไหน บอกเลยว่าสีน้ำตาลมีหลากเฉดหลายโทนให้สาวๆได้เลือกทำสีผมสวยกันเยอะมากๆ วันนี้ women society จึงหยิบ 5 โทนสีน้ำตาลสวยสุดป๊อป มาฝากสาวๆให้ได้เลือกกันก่อนใคร ว่าแล้วก็รีบตามไปดูกันเลยจ่ะ

1.น้ำตาลดาร์กช็อกโกแลต
สำหรับสาวๆที่ยังไม่ค่อยกล้าเสี่ยงและกลัวผมเสีย ต้องสีนี้เลยจ่ะ! เพราะเจ้าสีน้ำตาลดาร์กช็อกโกแลตทั้งเข้มและดูใกล้เคียงกับสีผมธรรมชาติเป็นที่สุด แนะนำว่าเหมาะสุดๆสำหรับสาววัยเรียน และสาวสีผิวเข้ม สีผมสีนี้ตอบโจทย์!




2.น้ำตาลอ่อนมอคค่า
อีกหนึ่งตัวเลือกดีๆที่สาวๆหลายคนชื่นชอบ เพราะสีน้ำตาลอ่อนนอกจากจะทำให้หน้าคุณดูไบรท์ขึ้นแล้ว ยังช่วยเนรมิตให้หน้าของคุณดูซอฟท์ ละมุนและดูหวานขึ้นมาได้อีกเป็นกองเลยล่ะจ่ะ


3.น้ำตาลทองสว่าง
สีนี้จะออกไปทางสีทองและสีบลอนด์หน่อยๆ เหมาะสุดๆกับคุณผู้หญิงผิวสองสีหรือผิวแทน เพราะมันจะช่วยให้หน้าของคุณดูสว่าง ขับผิวให้ดูกระจ่างสดใสและยังช่วยเพิ่มลุคเซ็กซี่ให้กับสาวๆได้เป็นอย่างดีทีเดียวเชียวล่ะจ่ะ



4.น้ำตาลหม่นปนเทาเขียว
สีผมสุดฮอตฮิต ที่สาวๆหลายคนเทใจรักสีผมสีนี้แบบหัวปักหัวปำ เพราะนอกจากจะอินเทรนด์แบบสุดๆแล้วยังช่วยทำให้หน้าสาวๆดูสว่างกระจ่างใสขึ้นอีกด้วยเช่นกัน


5.น้ำตาลประกายแดง
สาวเปรี้ยว เก๋ ชิค ต้องสีนี้เลยจ้า! เพราะเจ้าสีน้ำตาลโทนแดงจะช่วยขับลุคคุณให้ดูเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวจริง! เหมาะสุดๆสำหรับสาวๆที่แต่งตัวจัดจ้านและสนุกสนานกับการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้า ที่สำคัญไม่ว่าสาวผิวขาวหรือสาวผิวเข้มก็สามารถย้อมสีผมนี้ได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะไม่รอดเลยล่ะจ่ะ



 ขอขอบคุณ http://women.truelife.com/detail/12312
เรียบเรียงโดยทีมงาน women.truelife.com